-
เครือข่ายโทรคมนาคม ถูกโจมตีได้เหมือนกัน
เป็นที่ฮือฮาเมื่อข่าวคราวการโจมตีและสร้างความวุ่นวายในงานมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ หรือ “โอลิมปิก” ในครั้งนี้ เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น หลังเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สำนักข่าวและหนังสือพิมพ์ของฝรั่งเศส เริ่มตีข่าวถึงการโจมตีที่พุ่งเป้าไปที่เครือข่ายโทรคมนาคมในประเทศ 6 แห่ง ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็มีการลอบวางเพลิงทำลายระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูง จนไม่สามารถออกจากชานชาลาได้ นับว่าเป็นความท้าทายสำหรับการรักษาความปลอดภัยงานมหกรรมระดับโลก การโจมตีโทรคมนาคมเกิดขึ้นได้ง่าย แต่รับมือยาก […]
-
โอลิมปิกปีนี้ มี AI ช่วยรักษาความปลอดภัย
คืนนี้แล้วที่จะมีพิธีเปิดมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อย่าง “โอลิมปิก” ครั้งที่ 33 ที่มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อมีการจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับโลกแบบนี้ แน่นอนว่าสิ่งสำคัญคือแผนการรองรับแฟนกีฬา จำนวนมหาศาลที่เดินทางไปยังฝรั่งเศส รวมถึงมาตรการการรักษาความปลอดภัย ซึ่งที่น่าสนใจคือปีนี้มีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาประยุกต์ใช้ด้วย […]
-
สายด่วนฉุกเฉินโทรไม่ติด ปัญหาใหญ่ที่กระทบหลายภาคส่วน
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา BT หรือ BT Group บริษัทโฮลดิ้งโทรคมนาคมอังกฤษ ถูกปรับเป็นเงินจำนวน 17.5 ล้านปอนด์ หลังเกิดเหตุเบอร์โทรฉุกเฉิน 999 ขัดข้องเป็นเวลานาน เมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว […]
สายด่วนฉุกเฉินโทรไม่ติด ปัญหาใหญ่ที่กระทบหลายภาคส่วน
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา BT หรือ BT Group บริษัทโฮลดิ้งโทรคมนาคมอังกฤษ ถูกปรับเป็นเงินจำนวน 17.5 ล้านปอนด์ หลังเกิดเหตุเบอร์โทรฉุกเฉิน 999 ขัดข้องเป็นเวลานาน เมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว ซึ่ง BT เป็นผู้ให้บริการทั้งเบอร์โทรฉุกเฉิน 999 และ 112 ทั่วสหราชอาณาจักร และยังมีบริการสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยินและการพูด
หน่วยงานกำกับดูแล Ofcom (กสทช.ของอังกฤษ) กล่าวว่า บริษัท BT ไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับความล้มเหลวของบริการรับสายฉุกเฉินในเดือนมิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา เหตุการณ์ขัดข้องดังกล่าวกินเวลาถึง 10 ชั่วโมง ส่งผลกระทบต่อการโทรเบอร์ฉุกเฉิน 999 กว่า 14,000 ครั้ง อีกทั้งยังเป็นบริการที่เชื่อมต่อไปยังหน่วยงานตำรวจ, ดับเพลิง, รถพยาบาล และหน่วยยามชายฝั่ง
ไม่มีความพร้อม ไม่พร้อมแก้ไข
การสอบสวนของ Ofcom พบว่า BT ไม่มีระบบเตือนภัยที่เพียงพอเมื่อเกิดเหตุขัดข้องหรือระบบล่ม รวมถึงไม่มีขั้นตอนการประเมินความรุนแรง ประเมินสาเหตุของการขัดข้อง และแนวทางการแก้ไขเมื่อเกิดเหตุ
หน่วยงานกำกับดูแลยังพบอีกว่า แพลตฟอร์มรับมือภัยพิบัติของ BT ซึ่งเป็นระบบสำรองที่ออกแบบมา เพื่อรองรับกรณีเครือข่ายล่มไร้ประสิทธิภาพ และความจุไม่เพียงพอที่จะรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งนี่เองทำให้ Ofcom สั่งปรับ BT เป็นจำนวนสูงถึง 17.5 ล้านปอนด์ และสั่งให้มีการแก้ไขโดยด่วน
Suzanne Cater ผู้อำนวยการฝ่ายบังคับใช้กฎหมายของ Ofcom มองว่า BT ละเลยการแก้ปัญหา และไม่พร้อมรับมือกับเหตุการณ์เมื่อระบบเครือข่ายล่ม ทั้งนี้พบว่าสาเหตุของการขัดข้องมาจากระบบรับสายของ BT ถูกรบกวน ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดในการกำหนดค่าไฟล์บนเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท ทำให้ระบบของผู้รับสายรีบูตทันทีที่ได้รับสาย ส่งผลให้สายบางสายถูกตัดหรือถูกตัดการเชื่อมต่อในระหว่างการโอนสายไปยังหน่วยงานฉุกเฉิน
ในตอนแรก BT ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของปัญหาได้ และพยายามสลับไปใช้แพลตฟอร์ม แต่สุดท้ายการดำเนินการนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากคำแนะนำถูกบันทึกไว้ไม่ดีพอ และพนักงานไม่คุ้นเคยกับกระบวนการ แต่บริษัทก็พร้อมรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมแก้ไข
ขณะเดียวกันบริษัทคู่แข่ง อย่าง Vodafone บริษัทโทรคมนาคมข้ามชาติของอังกฤษ ก็ได้ขายหุ้นอีก 10% ในธุรกิจเสาสัญญาณมือถือ เป็นมูลค่า 1.1 พันล้านปอนด์ เพื่อชำระหนี้ และได้แยกธุรกิจ Vantage Towers ออกมาในการจดทะเบียนมูลค่า 20 พันล้านยูโร ในแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อปี 2020 แต่แล้วสองปีต่อมา บริษัทก็ตกลงที่จะขายธุรกิจบางส่วนให้กับ Global Infrastructure Partners และ KKR ทำให้ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมระดมทุนได้ 6.6 พันล้านยูโร จนถึงปัจจุบัน
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดมาแล้วบ่อยครั้ง
ในกรณีคล้ายกันยังเคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2017 ที่ AT&T ในสหรัฐอเมริกา ประสบปัญหาระบบเบอร์โทรฉุกเฉิน 911 ขัดข้อง เป็นเวลา 5 ชั่วโมง ส่งผลกระทบต่อการโทรฉุกเฉินไปยังบริการตำรวจและดับเพลิงในหลายรัฐ ทั้งเท็กซัส ฟลอริดา และรัฐอื่น ๆ ทำให้บริษัทถูกปรับโดย FCC (Federal Communications Commission) มูลค่า 5.25 ล้านดอลลาร์
หรือ กรณีของ Telstra ในออสเตรเลีย ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2016 ซึ่งประสบปัญหาระบบโทรฉุกเฉิน 000 (หมายเลขฉุกเฉินของออสเตรเลีย) ขัดข้องสองครั้ง ในระยะเวลาสั้น ๆ ปัญหาดังกล่าวทำให้การโทรฉุกเฉินบางสายไม่ได้รับการตอบสนอง Telstra ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากสาธารณะและรัฐบาล บริษัทจึงได้ดำเนินการปรับปรุงระบบเพื่อป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก
นอกจากนี้ยังมี เหตุการณ์ของ Orange ในฝรั่งเศส ประสบปัญหาระบบโทรฉุกเฉินในฝรั่งเศสขัดข้อง ทำให้การโทรฉุกเฉินไม่สามารถเชื่อมต่อได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง บริษัทถูกสอบสวนโดยหน่วยงานกำกับดูแลและต้องดำเนินการปรับปรุงระบบให้มีความเสถียรมากขึ้น หรือล่าสุดกับเหตุการณ์ระบบล่มครั้งใหญ่ของ CrowdStrike ก็ส่งผลกระทบไปยังหน่วยงานและองค์กรทั่วโลก สร้างความเสียหายมหาศาล ในจำนวนนี้รวมถึงผลกระทบต่อการใช้เบอร์ฉุกเฉิน 911 ในหลายรัฐของสหรัฐฯ ขณะที่โรงพยาบาลบางแห่งก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน
ทั้งนี้หากคำนวณความเสียหายคร่าว ๆ ก็อาจมีมูลค่าถึงหลักหมื่นล้าน หรืออาจมากกว่านั้น ซึ่งก็คงต้องรอดูว่าหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบและฟ้องร้องเกิดขึ้นมากแค่ไหน
ที่มา : The Telegraph, AP News, Fierce Network
สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ “OneForce”
Tel. : 061-462-6414, 064-189-9292
Line : @securitypitch
Email : [email protected]